Logo

ความแตกต่างของความปลอดภัยบนคลาวด์

Category: Technology
Posted Apr 2, 2020 15:19 (GMT +7)

กรุงเทพฯ--(THAI BUSINESS NEWS)--2 เมษายน 2563

บทความโดยเร้ดแฮท

imgการรักษาความปลอดภัยให้กับระบบคลาวด์ คือการปกป้องข้อมูล ปกป้องแอปพลิเคชั่น และปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับระบบคลาวด์คอมพิวติ้งทั้งหมด ซึ่งลักษณะหลายประการของความปลอดภัยบนสภาพแวดล้อมคลาวด์ (ไม่ว่าจะเป็นพับลิค ไพรเวท หรือไฮบริดคลาวด์) ก็เหมือนกับการรักษาความปลอดภัยของระบบไอทีที่ติดตั้งในองค์กร

ความกังวลด้านการรักษาความปลอดภัยระดับสูง เช่น การเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตและการรั่วไหลของข้อมูล การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เข้มงวดพอ ความไวของระบบต่อการถูกโจมตี และความพร้อมใช้งานที่ต้องหยุดชะงักลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบไอทีแบบดั้งเดิมและระบบคลาวด์เหมือนกัน ระบบคลาวด์จึงต้องมีการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้มากเพียงพอ เช่นเดียวกันกับสภาพแวดล้อมด้านคอมพิวติ้งอื่น ๆ ดังนั้นองค์กรต่าง ๆ จะต้องมีความสามารถดังต่อไปนี้

  • ทราบว่าข้อมูลและระบบมีความปลอดภัย

  • สามารถมองเห็นและรับรู้ถึงสถานะของการรักษาความปลอดภัยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

  • รู้ถึงความผิดปกติขึ้นในระบบได้อย่างทันที

  • สามารถติดตามและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างทันท่วงที

ทำไมการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์จึงแตกต่างกัน 

ในขณะที่หลาย ๆ คนเข้าใจถึงประโยชน์ของคลาวด์คอมพิวติ้ง แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็มีความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยเช่นกัน ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่จะต้องอธิบายให้เห็นภาพของสิ่งที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ ที่ถูกส่งผ่านระหว่างอินเทอร์เน็ตและเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ไดนามิกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่นเรื่องของภัยคุกคาม แต่สิ่งสำคัญคือในหลายส่วนความปลอดภัยของคลาวด์ก็คือความปลอดภัยของระบบไอที  ซึ่งเมื่อเข้าใจความแตกต่างที่เฉพาะเจาะจงแล้วก็จะไม่รู้สึกว่า "คลาวด์" ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

ขอบเขตความปลอดภัยไม่มีที่สิ้นสุด

การรักษาความปลอดภัยเกี่ยวข้องกับความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเป็นอย่างมาก สภาพแวดล้อมแบบดั้งเดิมมักควบคุมการเข้าถึงโดยการใช้โมเดล perimeter security แต่สภาพแวดล้อมคลาวด์มีการเชื่อมต่อกันมากทำให้ทราฟฟิกในการรับส่งข้อมูลสามารถหลีกเลี่ยงการรักษาความปลอดภัยในแบบของระบบดั้งเดิมได้ง่าย อินเทอร์เฟซช่องทางการเชื่อมต่อการทำงาน (Application Programming Interfaces: APIs) ที่ไม่ปลอดภัย การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลในการระบุตัวตนที่ไม่รัดกุม การขโมยข้อมูลทางบัญชี และบุคคลภายในองค์กรที่มีเจตนาร้าย อาจเป็นภัยคุกคามต่อระบบและข้อมูลได้ การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตบนระบบคลาวด์นั้น จำเป็นต้องใช้วิธีที่ให้ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง (data-centric) การเข้ารหัสข้อมูล การทำให้กระบวนการอนุมัติรัดกุมมากขึ้น ต้องมีรหัสผ่านที่แน่นหนา และการยืนยันตัวตนที่จะต้องให้ผู้ใช้งานใส่รหัสอีกหนึ่งชุดนอกเหนือจากรหัสผ่านส่วนตัวของเขา ซึ่งเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับทุกระดับการใช้งาน

สิ่งจำเป็นทุกอย่างมีอยู่ในซอฟต์แวร์

"คลาวด์" คือการส่งมอบทรัพยากรด้านไอทีที่โฮสต์ไว้ไปยังผู้ใช้งานผ่านซอฟต์แวร์ โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์คอมพิวติ้งพร้อมด้วยข้อมูลต่าง ๆ ที่กำลังประมวลผลนั้นมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สามารถปรับขยายและเคลื่อนย้ายได้ การควบคุมความปลอดภัยบนคลาวด์จำเป็นต้องสนองตอบต่อตัวแปรที่อยู่ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ควบคู่กับเวิร์กโหลดและข้อมูลที่ไม่ได้ใช้งานและที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโหลด (เช่น การเข้ารหัส) หรือเคลื่อนไหวผ่านระบบการจัดการคลาวด์และ APIs ซึ่งเป็นการช่วยปกป้องสภาพแวดล้อมคลาวด์จากความเสียหายของระบบและจากการสูญหายของข้อมูลได้

ภัยคุกคามที่มีความเสี่ยงสูง

ภัยคุกคามที่มีความเสี่ยงสูง คืออะไรก็ตามที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อระบบคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงระบบคลาวด์ด้วย การเพิ่มขึ้นของมัลแวร์ที่อันตราย และการโจมตีในรูปแบบอื่น ๆ เช่นภัยคุกคามที่เลือกโจมตีไปที่เป้าหมายเฉพาะ (Advanced Persistent Threats: APTs) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถหลบหลีกระบบป้องกันเครือข่ายได้ โดยกำหนดและมุ่งเป้าไปที่ช่องโหว่ต่าง ๆ ในคอมพิวติ้งสแต็ค  การรั่วไหลของข้อมูลอาจเป็นสาเหตุให้ข้อมูลถูกเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตและเกิดการปลอมแปลงข้อมูล ซึ่งไม่มีโซลูชั่นใดที่จัดการกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนนอกเสียจากว่าคุณจะต้องรับผิดชอบควบคุมระบบความปลอดภัยบนคลาวด์ให้ได้ด้วยวิธีการที่มีการพัฒนาให้ทันกับภัยคุกคามต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา

การรักษาความปลอดภัยในระบบคลาวด์เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน

ไม่ว่าคุณจะใช้ระบบคลาวด์แบบใด คุณต้องรับผิดชอบต่อการรักษาความปลอดภัยในส่วนที่คุณใช้งานภายในระบบคลาวด์นั้น การใช้ระบบคลาวด์ที่ดูแลโดยบุคคลอื่นไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถนิ่งนอนใจได้ การตรวจสอบที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ จะเป็นสาเหตุสำคัญของความล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยในระบบคลาวด์เป็นความรับผิดชอบของทุก ๆ คน ดังนี้

  • ใช้ซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น

ซอฟต์แวร์ที่ใช้อยู่บนระบบคลาวด์ของคุณมีความสำคัญยิ่งเพราะเมื่อคุณดาวน์โหลดโค้ดใด ๆ จากแหล่งภายนอก คุณจะต้องทราบว่าโค้ดนั้นมีที่มาจากไหน ใครเป็นผู้สร้าง และมีโค้ดอันตรายอยู่ภายในหรือไม่ หากต้องการซอฟต์แวร์จะต้องจัดหาจากแหล่งที่รู้จัก เชื่อถือได้ และต้องให้มั่นใจว่ามีวิธีรักษาความปลอดภัยและติดตั้งการอัปเดตโปรแกรมในเวลาที่เหมาะสม

  • เข้าใจเรื่องกฎระเบียบ

ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการเงิน และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ อาจจะอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวด ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายใด ๆ นั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณทำธุรกิจที่ไหนกับใคร เช่น เมื่อคุณเห็นกฎหมายของสหภาพยุโรปว่าด้วยมาตรการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (General Data Protection Regulation - GDPR) คุณจะต้องตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบก่อนที่จะเลือกใช้ระบบคลาวด์ใด ๆ เป็นต้น

  • การบริหารจัดการไลฟ์ไซเคิล 

สภาพแวดล้อมแบบคลาวด์เนทีฟทำให้การขึ้นตัวอย่างงานใหม่ ๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย และในขณะเดียวกันตัวอย่างงานเก่า ๆ ก็จะถูกลืมไปได้ง่ายเช่นกัน ซึ่งงานหรือบริการที่ไม่ได้รับความสนใจสามารถกลายเป็นเหมือนซอมบี้บนคลาวด์แต่ปราศจากการตรวจสอบใด ๆ และอาจทำให้ล้าสมัยอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าไม่มีแพชรักษาความปลอดภัยใหม่ ๆ อัปเดตอีกต่อไป ซึ่งนโยบายการจัดการและการกำกับดูแลไลฟ์ไซเคิลสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้

  • พิจารณาความสามารถในการเคลื่อนย้าย

คุณสามารถย้ายเวิร์คโหลดไปยังระบบคลาวด์อื่นได้อย่างง่ายดายหรือไม่ ข้อตกลงระดับการให้บริการ (Service Level Agreement - SLA) ควรกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ให้บริการระบบ
คลาวด์จะคืนข้อมูลหรือแอปพลิเคชั่นของลูกค้าเมื่อใดและด้วยวิธีใด ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้คิดจะย้ายข้อมูลหรือแอปพลิเคชั่นของคุณเร็ว ๆ นี้ก็ตาม แต่เพื่อป้องกันปัญหาการล็อคอินที่อาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้า คุณจำเป็นจะต้องพิจารณาเรื่องการเคลื่อนย้ายข้อมูลในตอนนี้ด้วยเช่นกัน

  • การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

การตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในเวิร์คสเปซของคุณจะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยง หรืออย่างน้อยที่สุด ยับยั้งผลกระทบที่จะเกิดจากการละเมิดการรักษาความปลอดภัยได้ การจัดการแพลตฟอร์มคลาวด์แบบครบวงจร จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบทรัพยากรทุกอย่างที่มีในทุกสภาพแวดล้อม

  • เลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสม

พิจารณาจัดจ้างและเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่มีคุณสมบัติและไว้วางใจได้ และเข้าใจความซับซ้อนเรื่องการรักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ บางครั้งโครงสร้างพื้นฐานพับลิค
คลาวด์อาจมีความปลอดภัยมากกว่าระบบไพรเวทคลาวด์ เนื่องจากผู้ให้บริการพับลิคคลาวด์มีทีมรักษาความปลอดภัยที่มีความพร้อมทั้งด้านข้อมูลและเครื่องมือดีกว่า

         

พับลิคคลาวด์ปลอดภัยหรือไม่ 

แม้จะบอกได้ถึงความแตกต่างด้านการรักษาความปลอดภัยที่ใช้ในระบบคลาวด์ทั้ง 3 แบบ ทั้งพับลิค
ไพรเวท และไฮบริดคลาวด์
แต่สิ่งที่คนส่วนมากต้องการทราบก็คือ “พับลิคคลาวด์มีความปลอดภัยหรือไม่” ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ

พับลิคคลาวด์มีการป้องกันที่เหมาะสมให้กับเวิร์กโหลดหลากหลายประเภท แต่ไม่ใช่กับทุกอย่าง ทั้งนี้เป็นเพราะส่วนใหญ่แล้วพวกเขาไม่ได้แยกจากไพรเวทคลาวด์ ระบบพับลิคคลาวด์รองรับการให้บริการผู้ใช้งานหลากหลายโดยไม่จำเป็นต้องอยู่องค์กรเดียวกันหรือใช้ซอฟต์แวร์เดียวกัน (Multitenancy) นั่นคือการที่คุณเช่าพื้นที่ในการเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการคลาวด์รายหนึ่งร่วมกับ "ผู้เช่า" รายอื่น ๆ ผู้เช่าแต่ละรายมีข้อตกลง SLA กับผู้ให้บริการคลาวด์ซึ่งระบุว่าใครรับผิดชอบอะไร ซึ่งก็เหมือนการเช่าห้องพักห้องหนึ่งจากเจ้าของบ้านเดียวกัน โดยเจ้าของบ้าน (ผู้ให้บริการคลาวด์) สัญญาว่าจะบำรุงรักษาอาคาร (โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์) เป็นผู้ถือกุญแจอาคาร (การเข้าถึงข้อมูล) และโดยทั่วไปจะไม่มายุ่งกับผู้เช่า (ความเป็นส่วนตัว) และในอีกด้านหนึ่ง ผู้เช่าสัญญาว่าจะไม่ทำสิ่งใด (เช่น การใช้แอปพลิเคชั่นที่ไม่ปลอดภัย) ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตัวอาคาร หรือรบกวนผู้เช่ารายอื่น แต่คุณก็ไม่สามารถเลือกเพื่อนบ้านได้ และมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่การเช่าพื้นที่นี้จะจบลงด้วยการที่เพื่อนบ้านคนใดคนหนึ่งนำสิ่งที่เป็นอันตรายเข้ามาสู่อาคาร แม้ว่าทีมรักษาความปลอดภัยด้านโครงสร้างพื้นฐานของผู้ให้บริการระบบคลาวด์กำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ที่ไม่ปกติอยู่ แต่ภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่หรือมีความรุนแรง เช่น การโจมตีโดยปฏิเสธการให้บริการ (DDoS) ก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้เช่ารายอื่นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นับเป็นเรื่องดีที่ยังมีมาตรฐานความปลอดภัย กฎระเบียบ และกรอบการควบคุมต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม เช่น Cloud Control Matrix จากองค์กร Cloud Security Alliance เป็นต้น
คุณสามารถกันตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมที่มีผู้เช่าหลายคนได้ ด้วยการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย (เช่น การเข้ารหัส และเทคนิคการลดความเสี่ยงให้กับ DDoS) ซึ่งช่วยป้องกันเวิร์กโหลดจากโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกบุกรุกได้ แต่หากมาตรการเหล่านี้ยังไม่เพียงพอ คุณสามารถใช้ระบบเชื่อมต่อระหว่างองค์กรไปยังระบบคลาวด์ (Cloud Access Security Brokers: CASB) เพื่อมอนิเตอร์กิจกรรมที่เกิดขึ้นและบังคับใช้นโยบายด้านความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อให้ฟังก์ชั่นการทำงานขององค์กรมีความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตามมาตรการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อาจจะไม่เพียงพอสำหรับองค์กรในอุตสาหกรรมที่ดำเนินงานภายใต้ข้อบังคับด้านความเป็นส่วนตัว การรักษาความปลอดภัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด

ไฮบริดคลาวด์ช่วยลดความเสี่ยง

การตัดสินใจเรื่องการรักษาความปลอดภัยนั้น เกี่ยวข้องกับระดับความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ และการวิเคราะห์ต้นทุน-กำไร ความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นส่งผลต่อสถานภาพโดยรวมขององค์กรคุณอย่างไร อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เวิร์กโหลดบางอย่างไม่ต้องการการเข้ารหัสและการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด ซึ่งเปรียบได้กับการล็อคตัวบ้านของคุณจะทำให้สมบัติของคุณปลอดภัย แต่คุณอาจจะเลือกเก็บเฉพาะของมีค่ามากไว้ในตู้เซฟก็ได้ ซึ่งมันเป็นการดีที่มีทางเลือกให้ตัดสินใจ

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทำให้องค์กรหันมาใช้ไฮบริดคลาวด์มากขึ้น ไฮบริดคลาวด์นำเอาคุณสมบัติที่ดีที่สุดของคลาวด์ทุกระบบมารวมไว้ให้คุณ ไฮบริดคลาวด์เป็นการรวมกันของสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่ 2 ระบบขึ้นไป – คือพับลิคคลาวด์ หรือไพรเวทคลาวด์

ไฮบริดคลาวด์ช่วยให้คุณเลือกที่ที่คุณจะเก็บเวิร์กโหลดและข้อมูล เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ การตรวจสอบ นโยบาย หรือการรักษาความปลอดภัย คุณสามารถเลือกใช้งานเวิร์กโหลดที่มีความสำคัญเป็นพิเศษบนไพรเวทคลาวด์ โดยมีการใช้งานเวิร์กโหลดที่สำคัญน้อยกว่าในพับลิคคลาวด์แทน สำหรับระบบไฮบริดคลาวด์บางประเภทที่ไม่เหมือนใคร มีความท้าทายด้านการรักษาความปลอดภัยหลายอย่าง (เช่น การเคลื่อนย้ายข้อมูล ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นและมีช่องทางที่จะถูกโจมตีมาก แต่การมีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายก็สามารถนำมาใช้เป็นหนึ่งในการป้องกันความเสี่ยงด้านการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุดได้

Distribute your news release with us

  • Print

    unique advertising solution

    Our media lists include news desks at all leading Thai and English-language dailies.

  • Radio & TV

    reliable platform

    We deliver your news to leading Thai radio stations and TV channels.

  • Internet Sites

    cloud computing

    All releases are submitted to Internet news sites, including several with guaranteed pickup.

Our Self-Serve News Release Couldn't Be Simpler

Our streamlined online process makes it simple and fast to submit your news to the Thai media. Once registered, just enter or copy your text into our submission form and you'll see an instant preview with our fee based on the word count, translation, and any attached image. To confirm submission, hit Enter to be taken to our payment processor. Once payment is approved, your release passes automatically to our news desk for translation and dissemination by our skilled and experienced team. You'll be kept informed at each step of the process.