พื้นที่นี้มีศักยภาพในการผลิตพลังงานลมได้ 2,500 เมกะวัตต์

ซานดิเอโกและฮูสตัน--(BUSINESS WIRE)--19 ธ.ค. 2018

EDF Renewables ในอเมริกาเหนือ และ Shell New Energies US LLC (Shell) ประกาศในวันนี้ว่าทั้งสองบริษัทได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนแบบ 50/50 ชื่อว่า Atlantic Shores Offshore Wind, LLC เพื่อร่วมพัฒนาพื้นที่เช่าของ OCS-0499 ภายใน New Jersey Wind Energy Area (WEA) หรือพื้นที่พลังงานลมของนิวเจอร์ซีย์ พื้นที่ที่เช่ามานี้มีศักยภาพในการผลิตพลังงานลมนอกชายฝั่งประมาณ 2,500 เมกะวัตต์ซึ่งเพียงพอที่จะให้พลังงานได้เกือบหนึ่งล้านครัวเรือน การทำธุรกรรมนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติด้านกฎระเบียบ การก่อสร้างจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจลงทุนในเชิงบวกเป็นที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะแบบมัลติมีเดีย ดูข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20181219005737/en/

สัญญาเช่านี้ประกอบด้วยพื้นที่ 183,353 เอเคอร์ห่างจากชายฝั่งแอตแลนติกซิตีประมาณ 8 ไมล์บนไหล่ทวีปของสหรัฐอเมริกาด้านนอก หรือ U.S. Outer Continental Shelf  (OCS) พื้นที่นี้มีแหล่งพลังงานลมที่แข็งแกร่งและคงที่ในน้ำที่ตื้น และตั้งอยู่ค่อนข้างใกล้กับศูนย์ประชากรขนาดใหญ่ที่มีความต้องการไฟฟ้า

"Shell มีความทะเยอทะยานที่กล้าหาญในการขยายธุรกิจพลังงานทดแทนของเราและเรามองเห็นศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของลมนอกชายฝั่งของสหรัฐฯ" Dorine Bosman รองประธานฝ่ายพัฒนาระบบลมของ Shell กล่าว "การเข้าถึงพื้นที่ตรงนี้ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ช่วยเติมเต็มความสำเร็จในการเข้าสู่แมสซาชูเซตส์และธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนที่มีอยู่ของเรา การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตราแบรนด์และสถานะทั่วโลกของเราช่วยให้เราสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และมีพลังงานที่สะอาดมากขึ้น "

" โอกาสนี้สนับสนุน เป้าหมายของ EDF Group ในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทดแทนจากทั่วโลกถึง 50 กิกะวัตต์ ภายในปี 2030 ซึ่งจะช่วยเสริมความทะเยอทะยานของ EDF Renewables ในการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ในตลาดลมนอกชายฝั่งของยุโรปในตลาดสหรัฐที่เกิดขึ้นใหม่ "Tristan Grimbert ประธานและซีอีโอของ EDF Renewables North America แสดงความคิดเห็น "ในขณะที่ต้นทุนของลมนอกชายฝั่งกำลังลดลง อุตสาหกรรมการผลิตนอกชายฝั่งของสหรัฐฯ กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางและรัฐที่เข้มแข็ง อุตสาหกรรมนี้มีบทบาทอย่างมากต่อเศรษฐกิจของนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ อย่างมีนัยสำคัญผ่านการจ้างงานและโอกาสในห่วงโซ่อุปทาน "

EDF Renewables มีกำลังผลิตลมนอกชายฝั่งจำนวน 2,800 เมกะวัตต์ในการพัฒนาหรือการดำเนินงานในยุโรป (เบลเยียม ฝรั่งเศสเ ยอรมนี และสหราชอาณาจักร) ทำให้บริษัทอยู่ในสถานะที่มีประสิทธิภาพในการสร้างพลังงานลมนอกชายฝั่งสหรัฐในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์

Shell ได้เข้าสู่ธุรกิจลมนอกชายฝั่งในสหรัฐเมื่อปี 2001 Shell ได้ดำเนินการสินทรัพย์นอกชายฝั่งเป็นเวลาหลายสิบปี มีเครือข่ายซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งและเป็นหนึ่งในผู้ค้าส่งพลังงานรายใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ จุดแข็งดังกล่าวช่วยให้เชลล์ยังคงมีบทบาทในด้านพลังงานหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านพลังงานทดแทนของบริษัท ปัจจุบันนี้ Shell มีส่วนได้เสียในโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งห้าแห่งในอเมริกาเหนือและเป็นหนึ่งในฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งในยุโรป นอกจากนี้ Shell ก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่จะสร้างและดำเนินกิจการฟาร์มลมแบบ Borssele 3 & 4 ในยุโรปด้วย

Atlantic Shores Offshore Wind, LLC จะเริ่มดำเนินการและเริ่มต้นการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นทางการบนสถานที่ โดยขึ้นอยู่การตัดสินใจลงทุนในเชิงบวกขั้นสุดท้าย ซึ่งอาจส่งผลให้ฟาร์มกังหันลมเริ่มดำเนินการภายในช่วงกลางทศววรษ ​​2020

เกี่ยวกับ EDF Renewables North America:

EDF Renewables North America เป็นผู้ผลิตและผู้ให้บริการด้านพลังงานอิสระชั้นนำของตลาด โดยมีความเชี่ยวชาญด้านพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 30 ปี บริษัท ให้บริการระบบไฟฟ้าแบบกริด (grid-scale power): ลม (ฝั่งและนอกชายฝั่ง), โครงการโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์ และโครงการจัดเก็บพลังแสงอาทิตย์; โซลูชั่นแบบกระจาย: พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานแสงอาทิตย์ + การจัดเก็บ, การชาร์จ EV และการจัดการพลังงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ ซึ่งหมายถึง เทคนิคการปฏิบัติงานและทักษะเชิงพาณิชย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างโครงการ EDF Renewables 'North American ประกอบด้วย 10 กิกะวัตต์  ของโครงการที่พัฒนาแล้วและ 10 กิกะวัตต์  ภายใต้สัญญาบริการ นอกจากนี้ EDF Renewables North America ยังเป็นบริษัทย่อยของ EDF Renewables ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่ได้รับความสนใจจาก EDF Group สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมไปที่: www.edf-re.com

เกี่ยวกับ EDF Renewables:

EDF Renewables เป็นผู้นำระดับโลกในด้านพลังงานทดแทนโดยมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 14.2 กิกะวัตต์  ทั่วโลก การพัฒนาส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์จากแสงอาทิตย์ รวมไปถึงด้านอื่น ๆ ของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เช่น การกระจายพลังงานและการเก็บรักษาพลังงาน โครงการ EDF Renewables ดำเนินงานส่วนใหญ่ในยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยย้ายเข้าสู่ภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างมีแนวโน้ม เช่น บราซิล จีน อินเดีย แอฟริกาใต้และอ่าวไทย บริษัทมีสถานะที่แข็งแกร่งในด้านพลังงานลมนอกชายฝั่งซึ่งมีกำลังผลิตรวมเกือบ 2,800 เมกะวัตต์ซึ่งรวมถึงโครงการสามโครงการตามแนวชายฝั่งของฝรั่งเศสด้วยกำลังการผลิต 1,500 เมกะวัตต์และโครงการผลิตกระแสลมนอกชายฝั่ง 450 เมกะวัตต์ในสหราชอาณาจักร EDF Renewables มีกำลังการผลิตลมนอกชายฝั่งมากกว่า 800 เมกะวัตต์โดยมีโครงการ 3 โครงการ ได้แก่ C-Power (325 เมกะวัตต์) ในเบลเยียม Teesside (62 เมกะวัตต์) และ Blyth (41.5 เมกะวัตต์) ในสหราชอาณาจักรและการดำเนินงานและการบำรุงรักษาความจุลม 400เมกะวัตต์นอกชายฝั่ง ด้วยการใช้ประโยชน์จากการซื้อกิจการของบริษัทที่เชี่ยวชาญในกิจกรรมนี้จากประเทศเยอรมนีที่เกิดขึ้นล่าสุด โครงการ EDF Renewables พัฒนา สร้าง ดำเนินการและดูแลโครงการเกี่ยวกับพลังงานทดแทนทั้งสำหรับบริษัทเองและบุคคลที่สาม บริษัทย่อยในต่างประเทศส่วนใหญ่มีตราสินค้า EDF Renewables EDF Renewables เป็นบริษัทในกลุ่ม EDF ที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม:www.edf-renewables.com.

ติดตามเราได้ที่ LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/edf-renewables และ Twitter (@EDF_RE เป็นภาษาฝรั่งเศสและ @EDF_Renewables เป็นภาษาอังกฤษ)

เกี่ยวกับ Shell New Energies

Shell มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ธุรกิจผลิตไฟฟ้าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการซื้อขายและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับลูกค้าโดยตรง ธุรกิจพลังงานใหม่ของเราต้องการยกระดับจุดแข็งของบริษัทในฐานะอุตสาหกรรมการผลิตที่เติบโตอย่างรวดเร็วและอุตสาหกรรมพลังงานเชิงพาณิชย์ของบริษัท เช่นลมนอกชายฝั่งในสหรัฐฯ

Shell เริ่มเข้าสู่ธุรกิจลมในสหรัฐฯในปี 2001 ปัจจุบันเรามีหุ้นส่วนในห้าโครงการพลังงานลมบนบกในอเมริกาเหนือและฟาร์มลมนอกชายฝั่งแห่งหนึ่งในยุโรป โดยรวมกำลังการผลิตพลังงานจากโครงการเหล่านี้มีมูลค่ามากกว่า 400 เมกะวัตต์ Shell ยังมีส่วนได้ส่วนเสีย 20% ในกลุ่ม Blauwwind ซึ่งจะสร้างและดำเนินการฟาร์มลม Borssele 3 และ 4 นอกชายฝั่งเนเธอร์แลนด์ ฟาร์มลมได้รับการออกแบบให้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 731.5 เมกะวัตต์ เพียงพอที่จะใช้พลังงานได้ประมาณ 825,000 ครัวเรือนดัตช์ Shell เป็นผู้ถือหุ้น 50% ใน Mayflower Wind Energy LLC ซึ่งเป็นผู้ชนะชั่วคราวของบล็อก 0521 ในแมสซาชูเซตส์สหรัฐอเมริกา เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ พื้นที่เช่าในแมสซาชูเซตส์สามารถรองรับกำลังการผลิตรวมประมาณ 1.6 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า 680,000 ครัวเรือนต่อปี